โรงเรือนและอุปกรณ์การเลี้ยง (Housing
&Equipments)
โรงเรือนและอุปกรณ์การเลี้ยง (Housing &Equipments)
ช่วยป้องกันสภาพภูมิอากาศที่เลวร้าย ช่วยให้สุกรสุขภาพดีขึ้น ดังนั้นก่อนการเลี้ยงต้องเตรียมโรงเรือนและอุปกรณ์ให้พร้อม
การเลือกสถานที่สร้างโรงเรือน
- สะดวกต่อการจัดการเลี้ยงดู
- สร้างโรงเรือนโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ของแต่ละท้องถิ่น
- ควรศึกษาการสร้างโรงเรือนจากผู้ที่มีประสบการณ์โดยศึกษาทั้งข้อดีและข้อเสีย
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกสถานที่สร้างโรงเรือนสุกร
1) ไม่อยู่ใกล้แหล่งที่อยู่อาศัยหรือชุมชนมากเกินไป
2) บริเวณที่จะสร้างควรเป็นที่ราบ มีการจัดแบ่งทางระบายน้ำกับของเสีย
3) ควรเป็นสถานที่ที่มีแหล่งน้ำสะอาด
4) มีการคมนาคมขนส่งสะดวก
แบบและการก่อสร้างโรงเรือนสุกรต้องให้สุกรอยู่สุขสบายสะดวกต่อผู้เลี้ยงดูในการปฎิบัติงานและราคาเหมาะสม ควรดูตัวอย่างการก่อสร้างจากฟาร์มอื่นอย่างน้อย 2 แห่ง แล้วศึกษาข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจสร้างโรงเรือน
1) ไม่อยู่ใกล้แหล่งที่อยู่อาศัยหรือชุมชนมากเกินไป
2) บริเวณที่จะสร้างควรเป็นที่ราบ มีการจัดแบ่งทางระบายน้ำกับของเสีย
3) ควรเป็นสถานที่ที่มีแหล่งน้ำสะอาด
4) มีการคมนาคมขนส่งสะดวก
แบบและการก่อสร้างโรงเรือนสุกรต้องให้สุกรอยู่สุขสบายสะดวกต่อผู้เลี้ยงดูในการปฎิบัติงานและราคาเหมาะสม ควรดูตัวอย่างการก่อสร้างจากฟาร์มอื่นอย่างน้อย 2 แห่ง แล้วศึกษาข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจสร้างโรงเรือน
โรงเรือน
1) หลังคา
- ควรทำให้มีการหมุนเวียนอากาศภายในโรงเรือนที่ดี
- ที่ดีที่สุดคือแบบเพิงหมาแหงน ซึ่งเลี้ยงได้แถบเดียว
- แบบจั่วชั้นเดียว เลี้ยงได้ แถวเดียวหรือ 2 แถว แล้วแต่ความกว้างของหลังคา
- หญ้าแฝก ,หญ้าคา,ใบตองตึง แต่วัสดุพวกนี้อายุการใช้งานไม่นาน มีราคาถูก นิยมใช้กันในผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยเป็นส่วนใหญ่
- หลังคาสังกะสี ราคาแพงกว่า,น้ำหนักเบา,ปลิวง่าย แต่มีอายุการใช้งานนาน
- กระเบื้อง มีราคาแพงกว่า 2 ชนิดข้างต้น อายุการใช้งานก็มากกว่าด้วย มีน้ำหนักมาก ทำให้อากาศภายในเย็นกว่าการใช้สังกะสี
4 ) ความสูงของโรงเรือน ขั้นต่ำควรสูง 4-5 เมตรจากพื้น
5 ) ฝาพนังโรงเรือน
- ควรสร้างให้แข็งแรง
- วัสดุที่ใช้ควรเป็น ไม้หรือ อิฐบล็อก
- ลักษณะต่าง ๆแล้วแต่การออกแบบ
- ต้องมีการระบายน้ำได้ดี,แห้งง่าย
- ถ้าเป็นพื้นซีเมนต์ต้องมีความลาดเอียง 3% ถ้าพื้นมีร่องไม่ต้องทำให้ลาดเอียง
- พื้นซีเมนต์ไม่ควรหยาบเกินไป(สุกรจะเจ็บกีบ) และไม่ควรลื่นเกินไป(อันตรายสำหรับคนเลี้ยงและสุกร)
- มีความเหมาะสมตามอายุของสุกรขนาดต่าง ๆ
- ส่วนใหญ่จะใช้พื้นโรงเรือนเป็นพื้นคอกสุกรด้วยเลยหรือบางทีก็จะใช้พื้นโรงเรือนเป็นพื้นของคอกสุกรอีกที
- มีคอกสำเร็จประกอบได้มาตั้งบนพื้นโรงเรือนอาจเป็นคอกคลอดหรือคอกอนุบาล
- คอกของพ่อสุกรควรอยู่ติดกับคอกของแม่สุกร เพื่อกระตุ้นให้แม่สุกรเป็นสัดเร็วขึ้น
- ในโรงเรือนอาจมีการแยกคอกออกเป็นส่วน ๆ เช่น คอกคลอด,คอกอนุบาล,คอกพ่อสุกร,คอกแม่สุกร,คอกสุกรขุน,คอกอุ้มท้อง
- ความสูงของคอกขึ้นอยู่กับว่าเป็นคอกสุกรระยะใด เช่นตั้งแต่ 50-70cm. เป็นสุกรเล็ก ,ตั้งแต่ 1.30-1.50 mขึ้นไป เป็นคอกของสุกรขุน
- ความกว้างของประตูสำหรับแม่สุกรและสุกรรุ่น-ขุน ควรเป็น 65-70 cm.
- ประตูควรอยู่ด้านข้างหรือด้านมุมของคอก (เป็นการแบ่งคอก)
- ควรอยู่ใกล้แนวทางเดินปฏิบัติงาน การเปิดประตูให้เปิดแบบเปิดออกไปข้างนอกเพื่อเป็นแนวกั้นสุกรเวลาเดิน คอกอนุบาลไม่ต้องมีประตู
- ให้น้ำในรางอาหาร(การให้อาหารแบบเปียก)หรือให้ในรางให้น้ำที่ทำจากอิฐแดงฉาบด้วยปูนเป็นบล็อกสี่เหลี่ยม
- ที่ให้น้ำ Nipple(หัวดูด) อาศัยแรงดันของน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้แบบนี้
- ที่ให้น้ำกับรางอาหารควรอยู่คนละที่กันยกเว้นคอกแม่สุกรที่อยู่ในที่แคบ ๆ จะให้ใกล้กัน
- ความสูงของการติดตั้งที่ให้น้ำขึ้นอยู่กับว่าเป็นคอกสุกรระยะไหน ่ลูกสุกรดูดนม 15-20 cm. จากพื้น สุกรหลังหย่านม 30-40 cm. จากพื้น่สุกรขนาดใหญ่ 40-50 cm จากพื้น
10.1รางอาหารกล นิยมใช้กันมากที่สุด สุกรกินอาหารได้ตลอดเวลา มีช่องบังคับการไหลของอาหาร สุกรจะคุ้นเขี่ยอาหารมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับช่องที่ให้อาหารไหลออกมา มี 2 แบบ คือแบบกลมและแบบสี่เหลี่ยม
- ที่ให้อาหารแบบกลมตัวถังจะทำด้วยแสตนเลส, สังกะสี และฐานจะหล่อด้วยเหล็กหนัก ๆ เพื่อไม่ให้ล้ม
- ที่ให้อาหารแบบสี่เหลี่ยม มีการให้ 2 แบบคือให้กินด้านเดียวอีกด้านหนึ่งจะชิดติดกำแพง หรือตั้งไว้ตรงกลางคอกโดยให้กิน 2ด้าน วัสดุที่ใช้ทำคือ สังกะสี,อะลูมิเนียม ต้องหมั่นสังเกตว่ามีอาหารติดอยู่ในที่ให้อาหารหรือเปล่า อย่าให้มีเชื้อราติดตามที่ให้อาหาร
- สุกรหลังหย่านม กว้าง 12 cm.
- สุกรรุ่น กว้าง 20 cm.
- สุกรขุน กว้าง 22-25cm.
- รางอาหารสุกรดูดนม เป็นรางอาหารเล็ก เพื่อการปรับตัวของลูกสุกร จะให้อาหารเสริมเมื่อแม่สุกรผลิตน้ำนมไม่เพียงพอและให้อาหารเลียราง รางมีความกว้าง 10-12 cm. ,ลึก 10cm. ด้านหนึ่งยึดไว้กับผนัง
0 comments:
Post a Comment